IBM Maximo Application Suite

การรวมกันของระบบจัดการทรัพย์สิน ระบบสังเกตการณ์ และ วิเคราะห์ และ ระบบการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ไว้ในแพลตฟอร์มอัจฉริยะเดียว

IBM Maximo Application Suite (MAS)

IBM Maximo คือโซลูชันการจัดการวงจรชีวิตสินทรัพย์แบบครบวงจรและเป็นผู้นำตลาด EAM ทั่วโลก รวมถึงฟีเจอร์ขั้นสูงของ MAS 8.0 ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท กระบวนการจัดการการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและเชิงแก้ไข การซื้อการจัดการ สัญญา ใบสั่งงาน … ทำให้เป็นซอฟต์แวร์การจัดการสินทรัพย์ที่ดีที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น Maximo ยังอยู่ในหมวดผู้นำของ Gartner Magic Quadrant อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1998 และถูกใช้โดยองค์กรทุกขนาดในทุกภาคส่วนทั่วโลก

IBM Maximo Asset Management นำเสนอแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งซึ่งผสานรวมฟังก์ชันการจัดการสินทรัพย์และการบำรุงรักษาอย่างราบรื่นโดยไม่คำนึงถึงขนาดธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณ ไม่ว่าคุณจะจัดการกับอุปกรณ์การประมวลผล สินทรัพย์ในห้องปฏิบัติการ สถานที่ผลิต สำนักงาน หรือคลังสินค้า IBM Maximo Asset Management เสนอโซลูชันที่ปรับแต่งได้เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของคุณ

คุณประโยชน์

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

MAS จะช่วยคุณลดค่าใช้จ่าย และ เพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงรักษาทรัพย์สินในบริษัทของคุณ

ระบบรวมเป็นหนึ่ง

ช่วยให้การดำเนินการภายในบริษัทของคุณเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ

การวิเคราะห์ที่ก้าวหน้า

ด้วยความสามารถในการรวบรวมข้อมูล ผลวิเคราะห์ที่ได้จะช่วยให้คุณประเมินองค์กรของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จ่ายเมื่อใช้งาน

คุณสามารถที่จะเปิดใช้งาน feature ที่ต้องการเมื่อไหร่ก็ได้

ความหลากหลายของคลาวด์

ด้วยโมดูล RedHat OpenShift ไม่ว่าเซิร์ฟเวอร์ของคุณจะเป็นอะไรก็ใช้งานได้

ความยืดหยุ่น

MAS เปิดให้คุณสามารถที่จะปรับแต่งระบบได้ตามที่คุณต้องการ

แอปพลิเคชัน

Maximo Manage (EAM)

Maximo Manage เป็นโซลูชันการจัดการสินทรัพย์หลักของ IBM Maximo Application Suite ที่มอบแพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์องค์กร (EAM) ที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและจัดการสินทรัพย์ทางกายภาพตลอดวงจรชีวิต ตั้งแต่การจัดซื้อ การจัดการคลัง ไปจนถึงการบำรุงรักษาและการปลดระวาง Maximo Manage ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสินทรัพย์ ลดต้นทุนการดำเนินงาน และปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยการให้บริการ:

  • การจัดการคำสั่งงาน: ปรับกระบวนการทำงานสำหรับการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และการดำเนินงานให้คล่องตัว
  • การจัดการวงจรชีวิตของสินทรัพย์: ให้มองเห็นสถานะ ประสิทธิภาพ และวงจรชีวิตของสินทรัพย์
  • การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและคาดการณ์: กำหนดเวลาการบำรุงรักษาเพื่อลดเวลาเสียและยืดอายุการใช้งานของสินทรัพย์
  • การจัดการคลังและการจัดซื้อ: จัดการอะไหล่และกระบวนการจัดซื้อเพื่อให้มั่นใจว่ามีวัสดุสำคัญพร้อมใช้เมื่อจำเป็น
  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และข้อบังคับอื่น ๆ

Maximo Mobile

Maximo Mobile ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานภาคสนามสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ขยายความสามารถของ Maximo ในการจัดการสินทรัพย์ได้จากทุกที่ แอปพลิเคชันนี้ออกแบบมาให้ทำงานได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานต่อไปได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Maximo Mobile มีฟีเจอร์ดังนี้:

  • การปฏิบัติงานในภาคสนาม: ช่างภาคสนามสามารถเข้าถึงคำสั่งงาน เก็บข้อมูล และทำงานให้เสร็จสิ้นผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • การตรวจสอบแบบเคลื่อนที่: สร้างและดำเนินการตรวจสอบสินทรัพย์ รวมถึงการบันทึกการอ่าน การถ่ายภาพ และบันทึกหมายเหตุ
  • การทำงานออฟไลน์: ซิงโครไนซ์ข้อมูลเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง เพื่อให้พนักงานยังคงสามารถทำงานได้แม้ในพื้นที่ห่างไกล
  • ความเป็นจริงเสริม (AR): ปรับปรุงการตรวจสอบและแนะนำการทำงานภาคสนามด้วย AR เพื่อดูรายละเอียดของสินทรัพย์และขั้นตอนการทำงาน

Maximo Health

Maximo Health เป็นโซลูชันการตรวจสอบสุขภาพสินทรัพย์ที่มีความครอบคลุม ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถประเมินและปรับปรุงสภาพของสินทรัพย์ที่สำคัญได้ โดยการบูรณาการข้อมูลจากเซนเซอร์ IoT บันทึกการบำรุงรักษา และสภาพการทำงาน Maximo Health นำเสนอ:

  • การตรวจสอบแบบเรียลไทม์: ติดตามประสิทธิภาพและสุขภาพของสินทรัพย์แบบเรียลไทม์โดยใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ IoT
  • การตรวจจับความผิดปกติ: ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสินทรัพย์โดยอัตโนมัติผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่อง
  • คะแนนสุขภาพ: กำหนดคะแนนสุขภาพให้กับสินทรัพย์ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุการใช้งาน การใช้งาน และประวัติการบำรุงรักษา
  • การบำรุงรักษาตามสภาพ: เปลี่ยนจากการบำรุงรักษาแบบตอบสนองไปสู่การบำรุงรักษาเชิงป้องกันโดยการใช้ข้อมูลสุขภาพของสินทรัพย์

Maximo Monitor

Maximo Monitor นำเสนอความสามารถในการติดตาม IoT ขั้นสูงสำหรับการติดตามและการแจ้งเตือนประสิทธิภาพของสินทรัพย์แบบเรียลไทม์ โดยการผสานข้อมูลจากเซนเซอร์ IoT เพื่อติดตามข้อมูลเชิงลึกของสินทรัพย์และให้การแจ้งเตือนแบบกำหนดเองเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติหลักได้แก่:

  • การติดตาม IoT แบบเรียลไทม์: ติดตามพารามิเตอร์สำคัญของสินทรัพย์ เช่น อุณหภูมิ ความดัน การสั่นสะเทือน และอื่น ๆ แบบเรียลไทม์
  • การแจ้งเตือนที่ปรับแต่งได้: ตั้งค่าขีดจำกัดและรับการแจ้งเตือนเมื่อเกิดสภาวะที่ผิดปกติหรือปัญหาการทำงาน
  • การตรวจจับความผิดปกติ: ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อตรวจจับการเบี่ยงเบนจากสภาวะการทำงานปกติ
  • การวิเคราะห์สาเหตุราก: วิเคราะห์ความล้มเหลวและปัญหาของสินทรัพย์ด้วยข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกจากสตรีมข้อมูล IoT

Maximo Predict

Maximo Predict ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เพื่อทำนายการเกิดความล้มเหลวและความต้องการบำรุงรักษาของสินทรัพย์ โดยใช้ข้อมูลในอดีต การอ่านเซนเซอร์ IoT และอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่อง Maximo Predict ช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันความล้มเหลวก่อนที่จะเกิดขึ้นได้ คุณสมบัติหลักได้แก่:

  • การทำนายความล้มเหลว: ทำนายเวลาที่สินทรัพย์มีแนวโน้มจะล้มเหลว เพื่อให้สามารถทำการซ่อมแซมล่วงหน้าได้
  • การประเมินความเสี่ยง: ประเมินความเสี่ยงของความล้มเหลวของสินทรัพย์โดยอิงจากสภาพการใช้งานและข้อมูลในอดีต
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษา: ปรับการจัดตารางบำรุงรักษาโดยการทำนายเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแทรกแซง
  • ข้อมูลเชิงลึกจาก AI: ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการทำงานของสินทรัพย์และทำนายพฤติกรรมในอนาคต

Maximo Visual Inspection

Maximo Visual Inspection ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจสอบสินทรัพย์โดยอาศัยการวิเคราะห์ภาพคอมพิวเตอร์ (Computer Vision) เครื่องมือนี้ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพ เช่น รูปภาพและวิดีโอ เพื่อระบุข้อบกพร่อง การสึกหรอ หรือความเสียหายในสินทรัพย์ คุณสมบัติหลักได้แก่:

  • การตรวจสอบด้วย AI: ระบุข้อบกพร่องในอุปกรณ์หรือสินทรัพย์โดยอัตโนมัติโดยใช้โมเดล AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลภาพ
  • การระบุข้อบกพร่อง: ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกัดกร่อน รอยแตก หรือการจัดตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องแบบเรียลไทม์ระหว่างการตรวจสอบด้วยภาพ
  • การควบคุมคุณภาพอัตโนมัติ: ปรับปรุงกระบวนการควบคุมคุณภาพด้วยการตรวจสอบภาพอัตโนมัติในสายการผลิตหรือในภาคสนาม
  • การปรับใช้บนคลาวด์หรือเอดจ์: ใช้โมเดลการตรวจสอบบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์หรืออุปกรณ์เอดจ์เพื่อสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่ห่างไกลและไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

สนใจติดต่อเรา

ให้เราได้ร่วมเป็นหนึ่งในตัวช่วยในธุรกิจของคุณ

Scroll to Top