มาถึงวันนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าระบบ CMMS (Computerized Maintenance Management System) หรือ ระบบบริหารและจัดการงานซ่อมบำรุงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สามารถช่วยลดต้นทุนในการซ่อมบำรุง ควบคุมค่าใช้จ่าย ยืดอายุการใช้งาน ลดปริมาณการเก็บวัสดุอะไหล่และอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้จริง หลายองค์กรจึงให้ความสำคัญกับระบบ CMMS และเตรียมพร้อมนำเทคโนโลยี AI และ IoT เข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
ซอฟต์แวร์ระดับโลกอย่าง IBM ให้บริการระบบ CMMS ผ่านแบรนด์ IBM Maximo ได้รวบรวมทุกฟังก์ชั่นการทำงาน ทำให้สามารถตอบโจทย์องค์กรธุรกิจได้ทั้งหมด และไม่ได้จำกัดแค่ในโรงงานผลิตเท่านั้น แต่ได้ขยายไปธุรกิจอื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล การบริหารจัดการอาคาร (Facility Management) ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นการบริหารงานระบบการซ่อม การบำรุงรักษาเชิงป้องกันของ เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักร และ อาคาร พื้นที่ให้บริการที่มีผลกระทบต่อธุรกิจขององค์กรและยังช่วยระดับบริหารได้ข้อมูลในการนำไปคำนวน MTBF & MTTR, และ Cost ค่าซ่อมต่างๆ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ในการวางแผน PM และดูจำนวนงาน CM ที่ลดลงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
IBM Maximo ได้รวม Features ที่สำคัญไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทุกความต้องการขององค์กร โดย Features ที่โดดเด่น เช่น
- Manage (Enterprise Asset Management): ช่วยในการจัดการทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่การวางแผน การจัดทำรายการ การดำเนินการบำรุงรักษา และการปรับปรุง
- Monitor (IOT & Dashboard): ช่วยในการติดตามและควบคุมการทำงานของทรัพย์สินผ่านการใช้งาน Internet of Things (IoT) และการสร้าง Dashboard เพื่อแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
- Health (Asset Health): ช่วยในการตรวจสอบสุขภาพของทรัพย์สิน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และตรวจสอบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน
- Predict (Predictive Maintenance): ช่วยในการทำนายการซ่อมบำรุงที่จำเป็นของทรัพย์สิน ทำให้สามารถวางแผนและดำเนินการล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- MVI (Maximo Visual Inspection): ช่วยในการตรวจสอบสภาพของทรัพย์สินผ่านการใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และการตัดสินใจในการบำรุงรักษาทรัพย์สินได้อย่างถูกต้อง
สำหรับธุรกิจห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และการบริหารงานอาคาร อสังหาฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่การให้บริการเป็นธุรกิจหลัก ระบบหลังบ้านต้องมีความพร้อมอย่างเต็มที่ การดูแลทรัพย์สิน การซ่อมบำรุง เครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ต้องพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง นี่คือความสำเร็จที่จะทำให้เป็นผู้นำในตลาดได้
ลูกค้ากลุ่มนี้ Maximo Solutions เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เจ้าหน้าที่สามารถส่งงานผ่านระบบได้อย่างรวดเร็วมีการประเมินผลความพึงพอใจ ใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ทุกรูปแบบ เก็บข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานในรูปแบบต่างๆ ได้ง่าย เพื่อให้ผู้บริหารได้รับข้อมูลที่ตรงประเด็นนำไปสู่การตัดสินใจอย่างดี และยังต่อยอดไปถึงหน่วยงานวิศวกรรมบริการ เพื่อจัดการแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างเป็นระบบ เต็มรูปแบบอีกด้วย
กลุ่มต่อมา คือ กลุ่มลูกค้าที่มีหัวใจสำคัญเป็น การบำรุงรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร อย่าง ธุรกิจพลังงาน โรงงานผลิตสินค้า/อาหาร เน้นให้ความสำคัญกับแผนการบำรุงเชิงป้องกัน วิเคราะห์ความคุ้มค่ากับแผนงานบำรุงรักษาตามพฤติกรรมการใช้ ทำให้การจัดการด้านงานซ่อมบำรุงมีสัดส่วนน้อยลง เวลาที่ใช้ก็น้อยลงเช่นกัน ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี อีกทั้งข้อมูลในระบบ ทางบริษัทฯ นำเสนอออกมาเป็นรูปแบบรายงาน MTTR (Mean Time to Repair), MTBF (Mean Time Between Failures), MTTF (Mean Time to Failures) เพื่อดูข้อมูลที่สำคัญได้ทันที
นอกจากนี้ด้วยขีดความสามารถ และความยืดหยุ่นของ IBM Maximo ยังตอบโจทย์การบริหารงานเติมสินค้าเข้าคลังอย่างมีแบบแผน ลดเวลาขั้นตอนการปฎิบัติงานเบิกจ่ายอะไหล่ การคำนวณปริมาณอะไหล่ที่ต้องทำการจัดซื้อ และการรับอะไหล่เข้าคลังเมื่อมีการจัดซื้อเสร็จสมบูรณ์ ช่วยให้การทำงานระหว่างแผนกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละองค์กร และเชื่อมต่อกับ Application หรือ Third Party Software ตัวอื่นๆ ได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ IBM Maximo ยังมี Features ที่น่าสนใจอีกมาก โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ AI เช่น Visual Inspection, Monitor, Health, Predict และ Mobile App โดยสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้
สำหรับลูกค้าที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับระบบ CMMS สามารถติดต่อ บริษัท เอสเอสเอส ไอที บิซิเนส โซลูชั่น จำกัด ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเป็นทางการของ IBM และมีประสบการณ์ในการพัฒนาโปรแกรม ประยุกต์ใช้โปรแกรมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 15 ปี ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการขนส่งมวลชน ธุรกิจด้านการบริการ และธุรกิจด้านการบำรุงรักษาอาคาร มีความชำนาญในการ customize IBM Maximo ให้รองรับกับความต้องการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแต่ละธุรกิจ การจัดทำรายงาน การเชื่อมต่อระบบ (intergration) ระหว่าง Maximo และ โปรแกรมอื่น เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังให้คำปรึกษาควบคุมด้านงบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กร โดยได้ใช้ IBM Maximo เข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุดในปัจจุบันนี้